วันอังคารที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

แรงจูงใจ

ประโยคหล่านี้ คือ แรงจูงใจ ให้ผมทำสิ่งต่างๆต่อไปในชีวิต และได้ แนวคิดใหม่ๆหลายอย่าง เป็นประโยคที่ผมชอบมาก

Impossible is nothing (Adidas)
Just do it! (Nike)
พรสวรรค์1% ความพยายาม99% (Tiger Beer)

"Genius is one percent inspiration and ninety-nine percent perspiration"
ความอัจฉริยะ 1% ความมุมานะ 99% ( ธอมัส อัลวา เอดิสัน )

"Just because something doesn't do what you planned it to do doesn't mean it's useless."
(เพียงเพราะว่าบางสิ่งไม่ได้เป็นไปตามแผนที่ท่านวางไว้ มิได้หมายความว่ามันจะไร้ประโยชน์เอาเสียเลย) <ธอมัส อัลวา เอดิสัน >

Keep walking (Johny walker )
หมื่นลี้ ต้องเริ่มที่ก้าวแรก
โลกหมุนด้วยความรัก (โบ สุรัตนาวี)
พรุ่งนี้..ไม่สาย (Endophine)
ฝันให้ไกลไปให้ถึง ไม่แข่งยิ่งแพ้
You will when you believe
Life is gift of god

การดูถูกคนอื่น ถือเป็นการทำให้ตัวเองดูมีค่าขึ้นเท่านั้นเอง
นิว อามตรอง ยังเหยียบดวงจันทร์ได้เลย แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้


เดินตามผุ้ใหญ่หมาไม่กัด ทำไมเราไม่เดินไปอีกทาง อีกทางอาจไม่มีหมาก็ได้ ไม่ก็ไปสู้กับหมาเอาซะเลย จะได้รู้ (อิฐ,a day)

วันเสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

สัจธรรมของการ์ตูนญี่ปุ่น*

สัจธรรมของการ์ตูนญี่ปุ่น

1. พระเอกที่ท่าทางงี่เง่าหรือน่าสมเพช มักจะเจอเรื่องโชคดีแบบไม่น่าเชื่อ (และน่าอิจฉา) เสมอ
เช่น โนบีตะ ที่อยู่ดีๆ ก็มี โดเรมอน โผล่พรวดออกมาจากลิ้นชัก
อุราชิมาเคทาโร่ แห่ง บ้านพักอลเวง (Love Hina) ที่อยู่ๆก็ได้รับมรดกเป็นหอพักหญิงที่มีสาวอยู่กันตรึม

2. คู่แข่งพระเอกจะเหมือนเก่งกว่า เท่กว่าพระเอกอยู่เสมอ ซึ่งพระเอกจะไม่มีวันสู้เลย ยกเว้นจะฮึดสุดๆ หรือฟลุกเด็ดๆ เจ้าคู่แข่งคนนั้นถึงจะแพ้
ดูอย่างในเรื่อง ซึบาสะ ที่จริงๆ แล้ว มิสุงิ จุน เก่งกว่า ซึบาสะ เสียอีกในช่วงแรกๆ แต่ดันเป็นโรคหัวใจเสียอีก
ปิศาจจิ้งจอกทามาโมะ ใน มืออสูรล่าปิศาจ ก็เก่งกว่า คุณครูนูเบตั้งเยอะ แต่ก็แพ้ลูกอึด
หรือเจ้า ไคบะ เซโตะ ในเรื่อง “เกมส์กลคนอัจฉริยะ” ก็มีการ์ดบลูอายส์ ไวท์ดราก้อนตั้งสามใบ แต่ก็มักจะไปแพ้ครีโบ้เห่ยๆของยูกิได้บ่อยๆไป

3. แล้วนายตัวข้างต้นที่กล่าวถึง มักจะกลับใจมาเป็นพวกพระเอกภายหลังเสมอ โดยจะเหลือคำพูดแก้เกี้ยวประมาณว่า “ข้าร่วมมือกะเอ็งแค่ครั้งนี้เท่านั้นนะเฟ้ย อย่าลืมว่าเราเป็นศัตรูกัน” (แต่ก็ตามมาช่วยแทบทุกครั้ง บางทีถึงขนาดตายแทนกันได้)

4. เวลาไปเที่ยวตามเกาะ ตามป่า ตามเขา ควรเช็คประวัติเพื่อนฝูงที่ไปเที่ยวให้ดี ว่ามีใครที่มีประวัติอะไรแปลกๆ เมื่อสี่ซ้าห้าสิบปีก่อนหรือไม่ ไม่งั้นเกาะนั้นอาจจะกลายเป็นห้องปิดตายขนาดยักษ์ และมีฆาตกรโรคจิตโผล่มาได้ แล้วก็จะมีคนพูดขึ้นมาว่า “อ้ะ หรือจะเป็นเรื่องเมื่อสิบปีก่อน...” ให้คนอื่นหน้าซีดกันเล่นๆ

5. คินดะอิจิ ฮาจิเมะ และ เอโดงาวะ โคนัน คือ ตัวซวยและตัวอันตราย ของตำรวจญี่ปุ่น ด้วยเจ้าหมอสองคนนี่โผล่ไปที่ไหน มีคนตายแบบแปลกๆทุกรายไป

6. แฟนของเจ้าสองคนข้างบน คุ้นเคยและเห็นคนตายต่อหน้าต่อตามาไม่ต่ำกว่ายี่สิบศพ แต่ทุกครั้งที่เห็นคนตาย เธอก็จะร้องกรี๊ดและเป็นลมได้ทุกครั้ง (น่าจะชินเสียบ้างนะ)

7. ฆาตกรอัจฉริยะที่วางแผนฆาตกรรมซ่อนเงื่อนอย่างแยบยลในห้องปิดตายสารพัดจะลึกลับ มักจะพลาดแบบงี่เง่า เช่น ทิ้งก้นบุหรี่หรือกระดุม แหวน หรืออะไรๆ ที่มันส่อให้โยงถึงตัวเองเอาไว้

8. ตำรวจญี่ปุ่นมีการทำงานที่เปิดกว้างแบบสุดๆ ยอมให้เด็กตัวกระเปี๊ยกและเด็กมัธยมเข้าถึงหลักฐานฆาตกรรมได้โดยสมบูรณ์

9. ฟองสบู่และหมอกควัน ในการ์ตูนญี่ปุ่นทำหน้าที่ของมันได้ดีเสมอ โดยเฉพาะในฉากโรงอาบน้ำ คือมันจะคอยลอยไปปิดในส่วนที่ผู้อ่านอยากเห็นอย่างมิดชิดทุกครั้ง

10. เวลาผู้หญิงแก้ผ้า จะมีเสียง “ฟ้าว” “วืด” “ซ่า” “ผ่าง” “ควับ”หรือ “พรวด” และ ฯลฯ ออกมาจากส่วนที่พึงสงวนเสมอ

11. การ์ตูนเกี่ยวกับการทำอาหาร จะพบสัจธรรมว่า พระเอกสามารถใช้หม้อหรือกระทะใบย่อมๆ แต่ทำอาหารเลี้ยงคนได้ทั้งโตเกียวโดม

12. ลูกบอลในการ์ตูนเรื่อง ซึบาสะนั้น ลอยช้ามาก ระหว่างเท้าถึงประตูนั้น นักเตะสามารถระลึกความหลังได้กว่าชาติครึ่ง ประมาณว่ายิงแล้วนึกถึงเพื่อนฝูงญาติโยมและครูอาจารย์ได้โขยงนึง บอลถึงเข้าประตู

13. การ์ตูนเรื่องข้างบน ถ้าเป็นแมตช์สำคัญ ทีมญี่ปุ่นจะถูกยิงนำไปจนหายห่วง เพื่อรอจังหวะยิงมา จนกระทั่งกลับมานำได้ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขันทุกทีไป

14. นางเอกส่วนใหญ่จะเกลียดขี้หน้า หรือไม่ชอบพระเอกมาตั้งแต่ต้น แต่ลึกๆจะแอบเป็นห่วงอยู่เสมอ และจะออกไปในรูปของซ้อมไปห่วงไปมากกว่า

15. ถ้าพระเอกมีเหตุผลที่น่าจะให้เข้าใจผิดกับนางเอก เช่น มีรุ่นน้องมาให้ของขวัญ เดินออกมาจากโรงแรมกับใคร หรือมีคนแปลกหน้ามาจุ๊บ คุณไม่ต้องห่วง นางเอกเห็นแน่ๆ เห็นกับตาเลยด้วย

16. ถ้ามีการอาบน้ำในห้องสาธารณะหรือบ่อน้ำแร่ มีโอกาสถึง 90% ที่ ไม่พระเอกก็นางเอกที่จะลงบ่อหรือเข้าห้องน้ำผิด หรือมาพบภายหลังว่าเป็นบ่ออาบน้ำรวม


CREDIT :: FixxxBoard

วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ตำนานขนมครก, ขนมของ....คนรักกัน

ตำนาน "ขนมครก" อ่านแล้วอยากให้ขนมครก คนรักแทนขนมเค้ก...


ทิ หรือพ่อกะทิ ชายหนุ่ม โผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่ อยู่ตัวคนเดียว
พูดจริงทำจริง

ขยันขันแข็งเอางาน เอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย

ทุกคนในหมู่บ้าน ล้วนรักและเอ็นดูทิ ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง

เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาว สวย ที่ดันมาหลงรักทิด้วยเช่นกัน

แม่แป้ง ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน

นางเจอกับทิในวันลอยกระทง ทั้งคู่ขี่ควาย สัญญากันต่อหน้าพระจันทร์

ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วทิก็รวบรวม เงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง

ซึ่ง ผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
ทิไม่ว่า กระไร

ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอม กลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลาย วัน

ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่ ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจ อ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของทิด้วยการคลุมถุงจัด งานแต่งงาน

ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรน
ทุรายหมายจะมาทำลายพิธี

ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าทิต้องกระทำแบบ นี้ จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย ก็แอบหนีหมายจะ มาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์ ได้
แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อ
ปากว่า…

... คืนนั้น เป็นคืนเดือนแรม

แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าทิ ทิเห็น แม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ
รีบวิ่งไปหา

แม่แป้งเห็นทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่ง เข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปใน หลุมพราง

ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตาทิทันที

อารามตกใจ ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6

นายของผู้ใหญ่ปลั่งรีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ

เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

... รุ่งเช้า ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุม เพื่อดูผล

ภาพเบื้องล่างพบทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของ ตน

นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็น น้ำตา…

ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้น ไว้

เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า

อย่าคิดทำร้ายหรือ ทำลายความรักของใครอีกเลย

สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่ นอน

จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็น ประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก

ชาวบ้านที่ศัรทธาในความรักของทิ กับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด

เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน

ปรุง จากแป้งและกะทิ

บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน

เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป

ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนม แห่งความรัก

(ขนมของ "คนรักกัน" )

หรือเรียกย่อๆ ว่า " ขนม ค.ร.ก."

Credit :: dek-d.com T^T

ต้นกำเนิดของแปรงสีฟัน +


รู้รึเปล่าว่า ต้นกำเนิดของแปรงสีฟัน ที่เราต้องใช้แปรงฟันทั้งเช้าและเย็นนั้นมาจากไหน?
คนที่คิดค้นแปรงสีฟันอันแรกของโลก คือ วิลเลียม แอดดิส ชาวเมืองเคิร์กเคนวอลล์ ซึ่งเกิดทำผิดมีอันต้องเข้าไปนอนในคุก ตอนนั้นผู้คนทั้งในและนอกคุกใช้วิธีแปรงฟันโดยใช้เศษผ้า นำมาถู ๆ ที่ฟัน รวมถึงนายแอดดิสด้วย ระหว่างนั้นแอดดิสจึงเริ่มที่จะคิดค้นเครื่องมือที่จะช่วยในการทำความสะอาดฟัน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “แปรงสีฟัน” นั่นเอง
อุปกรณ์ที่แอนดิสนำมาทำแปรงสีฟันคือ กระดูก เอามาเจอะเป็นรูเล็กๆขอขนแปรงจากผู้คุมมายัดลงไปในรูแล้วติดกาว หลังจากนั้นเมื่อ แอดดิสออกจากคุก เขาก็เริ่มประดิษฐ์แปรงสีฟันออกขาย จึงเป็นต้นกำเนิดของแปรงสีฟันที่มีให้เราใช้มาจนถึงทุกวันนี้

Credit :: sakid.com ^____^

วันจันทร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

Réveil-matin


Un réveille-matin mécanique


Un réveille-matin électrique

Un réveil-matin ou réveille-matin, couramment appelé réveil, est une horloge qui émet un son à une heure pré-déterminée. On l'utilise généralement pour se réveiller en début de journée, d'où son nom. Il a été inventé par Antoine Redier.

Les réveils-matin modernes ne s'arrêtent pas de sonner tant qu'une action n'a pas été effectuée par l'utilisateur, afin d'être certain qu'il l'a bien entendu et qu'il s'est bien réveillé, s'apparentant ainsi à un dispositif de l'homme mort.

Il est possible de régler le déclenchement de certains réveils-matin à deux heures distinctes.

Plus récemment, des récepteurs radio ont été intégrés aux réveils, permettant de déclencher au choix un son ou un programme diffusé par une station de radio : on parle alors de radio-réveil. Plus tard, il en a été de même avec des lecteurs de cassettes ou de CD, permettant de se réveiller avec la musique de son choix.

Certains réveils-matin proposent aussi de choisir entre plusieurs sons pour se réveiller, certains étant plus adaptés à un réveil en douceur (chants d'oiseaux, bruit des vagues, etc.).

Certains permettent de s'endormir avec la musique ou la radio, en offrant un mode de temporisation (Sleep) qui éteint l'appareil automatiquement après un délai réglé par l'utilisateur. Certains offrent une fonction de répétition de l'alarme (Snooze) qui permet d'éteindre l'alarme temporairement, alarme qui se déclenchera automatiquement de nouveau après un délai pour permettre de rester au lit quelques minutes supplémentaires sans risquer de s'oublier.

D'autres appareils peuvent être utilisés en guise de réveils-matin : montre, téléphone mobile, ordinateur, télévision, etc.

Voculabulaire +
réveil-matin = นาฬิกาปลุก
couramment = อย่างคล่องแค่ลว,อย่างง่ายดาย,โดยทั่วไป
une horloge = นาฬิกาแขวนหรือตั้ง
récemment = เมื่อเร็วๆนี้,ซึ่งผ่านพ้นมาเมื่อเร็วๆนี้,ใหม่
automatiquement = อัตโนมัติ

วันจันทร์ที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

mA K3ro /*

Monaco



La Principauté de Monaco, ou Monaco en forme courte, est une Cité-État ainsi qu’une commune occupant la même superficie que l’État lui-même. Enclavée dans le territoire français, Monaco est situé au bord de la mer Méditerranée, le long de la Côte d'Azur, à une vingtaine de kilomètres à l’est de Nice.

Indépendante depuis 1297, cette monarchie constitutionnelle dirigée depuis 2005 par le Prince souverain Albert II de Monaco occupe aujourd’hui une superficie de 2,02 km2[3] ce qui, après le Vatican, en fait le deuxième plus petit État indépendant du monde. Lors du dernier recensement de 2000, Monaco comptait 32 020 habitants[4]. Avec 15 851 hab./km2, c’est le pays le plus densément peuplé. En 2006, la population était estimée à 32 543[5].

Pratiquement entièrement urbanisée, la principauté de Monaco bénéficie d’un climat méditerranéen particulièrement clément et dispose de nombreuses installations hôtellières de luxe. De nombreux événements internationaux (Grand Prix de Formule 1, Tournoi de Monte-Carlo, Masters de Monte-Carlo) s’y déroulent en plus des attractions présentes tout au long de l’année (Casino de Monte-Carlo, Musée océanographique, Palais princier), ce qui en fait une destination privilégiée pour les touristes.

วันพฤหัสบดีที่ ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

"ขนม"

ประวัติที่มาของคำว่า "ขนม"


คำว่า "ขนม" เข้าใจว่ามาจากคำสองคำที่ผสมกันมาแล้ว คือ ข้าวหนม กับข้าวนม ข้าวหนมนั้นเข้าใจว่าเป็นข้าวผสมกับน้ำอ้อย น้ำตาล โดยคำว่า หนมแปลว่า หวาน อย่างข้าวหนมก็แปลว่า ข้าวหวาน เรียกสั้น ๆ เร็ว ๆ จึงเพี้ยนเป็นขนมไป ส่วนที่มาจากข้าวนม(ข้าวเคล้านม) ออกจะดูเป็นแขกเพราะว่าอาหารของแขกบางชนิดใช้ข้าวมธุปายาสของแขกโบราณ(ดังที่นางสุชาดา ทำถวายพระพุทธเข้าเมื่อตอนตรัสรู้ก็ว่าเป็นข้าวหุงกับนม) และเช่นเดียวกันเมื่อพูดเร็ว ๆ จึงเพี้ยนภลายเป็นขนมแทน

คำว่าขนมมีใช้มานานหลายร้อยปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำผสมของอะไร จึงเป็นการยากที่จะสันนิฐานให้แน่นอนได้ ของที่เรียกว่าขนมในสมัยโบราณ หรือในสมัยที่จะมีคำว่าขนมนั้นจะเป็นของที่เกิดจากข้าวตำป่น (แป้ง) แล้วผสมกับน้ำตาลเท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขนมรุ่นแรก ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงขนมต้มไว้เหมือนกัน เดิมมีแป้งกับน้ำตาล ต่อมามีคนดัดแปลงสอดไส้เข้าไปอีก ถึงตอนนี้ยังมีมะพร้าวปนอยู่ด้วย ขนมไทยจึงมี มะพร้าว แป้ง และน้ำตาล ไม่พ้น ของทั้ง 3 เป็นของพื้นเมืองที่หาได้โดยทั่วไป

ประเภทของขนมที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้

-ขนมไทย
-ขนมขบเคี้ยว หรือ สแน็ก
-ขนมหวาน
-ขนมเค้ก
-ขนมปัง

Credit : dek-d.com